Pre-Flop หรือ Post-Flop
คุณเป็นผู้เล่นประเภท?!!
มันมีความแตกต่างอย่างมากระหว่างการเล่น Pre-Flop Poker และ Post-Flop Poker ถึงแม้ว่าการเล่นโป๊กเกอร์จะมีทั้งช่วงของ Pre-Flop และ Post-Flop แต่จะมีหนึ่งช่วงที่เป็นเป็นจุดสำคัญ และคุณจะต้องตั้งใจโฟกัสเป็นพิเศษ มันสำคัญมากที่คุณจะต้องเข้าใจเกมที่คุณกำลังเล่นอยู่ เพื่อปรับการเล่นของคุณให้เหมาะสม
กฎทั่วไปที่เห็นได้ชัด คือหากการตัดสินใจที่สำคัญส่วนใหญ่ของคุณเกิดขึ้นในช่วง Pre-Flop คุณกำลังเล่น Pre-Flop Poker ในทำนองเดียวกันหากการตัดสินใจส่วนใหญ่ของคุณเกิดขึ้นในช่วง Post-Flop คุณกำลังเล่น Post-Flop Poker Online มาดูตัวอย่างสถานการณ์ของเกม และรูปแบบการเล่นที่ควรจะเล่น
สถานการณ์-รูปแบบการเล่น
Deep-Stacked Cash Game – Post-Flop
Heads-Up Cash Game กับ Short Stacker – Pre-Flop
Heads-Up กับผู้เล่นที่อ่อนกว่ามาก – Post-Flop
เล่นด้วยจุดแข็งของคุณ
ถ้าคุณเป็นผู้เล่นที่ชอบ Bluff อย่างมีชั้นเชิง และคิดว่าตัวเองสามารถทำกำไรได้สูงสุดในขณะที่น่าจะสูญเสียน้อยด้วย คุณเหมาะกับการเล่น Post-Flop Poker
แต่ถ้าคุณชอบใช้เทคนิค Small Ball ใช้จุดอ่อนให้เป็นประโยชน์ลัใช้เทคนิคทางคณิตศาสตร์ คุณเหมาะกับการเล่นแบบ Pre-Flop Pokerนี่เป็นเหตุผลที่ผู้เล่นบางคนถนัดและเล่นได้ดีในเกม Sit-N-Go มากกว่า ในขณะที่บางคนชื่นชอบและทำกำไรได้ดีกว่าในเกม Deep-Stacked
ในขณะที่ผู้เล่นสไตล์ Post-Flop หลายๆคนมักคิดว่า การเล่น Pre-Flop Game นั้นก็เหมือนกับการพนันทั่วๆไป เมื่อเปรียบเทียนกับการเล่นสไตล์ Post-Flop ซึ่งใช้วิธีการคิดแบบหมากรุกซึ่งที่จริงแล้ว ไม่มีแบบไหนดีกว่า หรือสามารถทำกำไรได้มากกว่ากันหรอก หากคุณเข้าใจว่าคุณเป็นผู้เล่นสไตล์ไหน ก็เล่นและทำกำไรในแบบของคุณ เพราะถ้าคุณเป็นผู้ที่ถนัดเล่นเกม Pre-Flop ก็ไม่มีประโยชน์ที่อาจจะต้องเสียเงินให้การนั่งเล่นใน Cash Game และ Deep-Stacked
เล่นกับไพ่ หรือ เล่นกับคน
ในขณะที่กำลังเล่น Pre-Flop Poker ผู้เล่นเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะ Move “ตอนไหน” แต่สุดท้ายแล้ว ไพ่จะเป็นตัวตัดสินชะตาว่าจะชนะหรือแพ้ ทำให้เกมมี Variance สูง ถึงแม้คุณจะ All-In ทั้งที่คิดว่ามีโอกาสชนะ 4-1 ในสุดท้ายแล้วคุณก็อาจจะแพ้ให้ 20% นั้นได้
นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมผู้เล่นที่ดีบางคนถึงเลือกที่จะ Call หรือ Limp ในช่วง Pre-Flop และใช้ทักษะในการสังเกตุมาใช้ให้เป็นประโยชน์ในช่วง Post-Flop แทน
สำหรับเกมสไตล์ Post-Flop ยิ่งทักษะการเล่นของคุณและคู่แข่งแตกต่างกันมากเท่าไร มุลค่าของไพ่ในมือคุณก็ยิ่งน้อยลงเท่านั้น
ถ้าคุณไม่แข็งแกร่งเท่าคู่แข่ง อย่าพยายามไปแข่งในช่วง Post-Flop ให้คุณพยายามบีบให้เขาเล่นช่วง Pre-Flop กับคุณดีกว่า หมายความว่าคุณควรจะ Raise แทนที่จะ Limp และคุณควรจะ Re-Raise แทนที่จะ Call และคุณควรจะ Fold หากคุณคิดว่าเริ่มท่าไม่ดีหรือโดนบังคับให้เข้าสู่เกม Post-Flop โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณอยู่ในตำแหน่ง Out Of Position ด้วย
ทางเลือกในการเล่น
ผู้เล่นโป๊กเกอร์ส่วนใหญ่ที่เข้าใจคุณแข็งของตัวเอง จะพยายามดึงเกมให้เป็นในสไตล์ที่ตัวเองถนัด แต่ไม่ทุกครั้งที่เกมจะปล่อยให้เรามีทางเลือกมากนัก
เมื่อคุณเริ่มเล่นเกม Pre-Flop แต่มันมีแนวโน้มที่จะเข้ากับสไตล์ของผู้เล่น Post-Flop มากกว่า (หรือในทางกลับกัน) คุณกำลังเริ่มมีปัญหาแล้วละ
โดยส่วนใหญ่แล้ว การเลือกเล่นเกมทั่วๆไปของคุณสามารถช่วยตัดสินได้ว่าจะต้องเล่นในรูปแบบใด แต่ก็มักจะมีบางครั้งที่คุณจะต้องเลือกได้ก็ตอนที่อยู่บนโต๊ะแล้วเท่านั้น ซึ่งเป็นช่วงเวลาสำคัญที่คุณจะบีบให้เกมเดินไปให้ทางที่คุณถนัด และจะดีมาก หากคุณสามารถนำเกมไปสู่รูปแบบที่ฝ่ายตรงข้ามไม่ถนัด
เลือกเกมที่เหมาะกับคุณ
ไม่แปลก หากคุณอยากเป็นผู้เล่นสไตล์ Pre-Flop นักเล่นโป๊กเกอร์ออนไลน์หลายๆก็สามารถทำกำไรได้มากจากการเล่นสไตล์นี้ แต่ถ้าคุณไม่สะดวกใจจะเน้นที่ช่วง Pre-Flop และอยากเห็นกระดานก่อนเล่น มันก็โอเคที่คุณจะเข้าใจว่าตัวเองชอบและถนัดแบบไหน ถ้าในสถานการณ์จริง เกมไม่ได้เป็นไปในทางที่คุณคาดหวัง คุณก็แค่ต้องต้องปรับตัวในเข้ากับสถานการณ์
เช่น คุณเป็นผู้เล่นที่ชอบสไตล์ Pre-Flop และกำลังจะเล่นเกม Deep-Stacked Cash Game คุณอาจจะแก้สถานการณ์โดยการแลกชิพให้น้อยลง การที่คุณมีชิพจำกัด จะเป็นการบังคับผู้เล่นคนอื่นให้เล่น Pre-Flop กับคุณทางอ้อมนั่นเอง
